พรีเมียร์ลีกออกแถลงการณ์หลังจาก ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ คิดว่าเขาเป็นคนทำประตูตีเสมอให้ลิเวอร์พูลในเกมกับซันเดอร์แลนด์ที่แอนฟิลด์เมื่อคืนวันพุธ ufa365
ค่ำคืนที่แอนฟิลด์ที่ควรจะเป็นช่วงเวลาจดจำของ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ กลับกลายเป็นอีกหนึ่งฉากดราม่าที่ตอกย้ำความรู้สึก “ติด ๆ ขัด ๆ” ของลิเวอร์พูลในยุคใหม่ภายใต้การคุมทีมของ Arne Slot แทนที่จะได้ฉลองประตูแรกในสีเสื้อหงส์แดงต่อหน้าเดอะค็อปทั้งสนาม ดาวเตะทีมชาติเยอรมนีกลับต้องเห็นชื่อของตัวเองหายไปจากสกอร์ชีต เมื่อพรีเมียร์ลีกออกแถลงยืนยันว่า ลูกยิงตีเสมอในนาทีที่ 81 จะถูกบันทึกเป็น “เข้าประตูตัวเอง” ของ นอร์ดี้ มูกีเล่ กองหลังซันเดอร์แลนด์อย่างเป็นทางการ
จังหวะดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงโค้งสุดท้ายของเกม ลิเวอร์พูลกำลังตามหลัง 0–1 ต่อทีมเยือนที่เล่นได้อย่างมั่นใจและมีระเบียบ เวิร์ตซ์รับบอลบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนแต่งหาจังหวะแล้วสับไกเต็มข้อ บอลพุ่งไปโดนขา มูกีเล่ เปลี่ยนทางผ่านมือผู้รักษาประตูโรบิน โรเฟส เข้าไปชนิดที่นายด่านซันเดอร์แลนด์ทำอะไรไม่ได้ เดอะค็อปลุกขึ้นเฮสนั่น สนามบ้าคลั่งราวกับได้เห็นการปลุกชีพของทีมในช่วงท้ายเกม และทุกคนต่างคิดตรงกันว่านี่คือ “ประตูแรกของเวิร์ตซ์กับลิเวอร์พูล” ที่รอคอย
แต่หลังจากเสียงเฮเงียบลง ไม่กี่นาทีก็มีการยืนยันจาก Premier League Match Centre ว่า ประตูดังกล่าวจะถูกจดเป็นเข้าประตูตัวเอง โดยแถลงสั้น ๆ ว่า “คณะกรรมการรับรองประตูได้ตัดสินว่าประตูในนาทีที่ 81 ของลิเวอร์พูลเป็นการทำเข้าประตูตัวเองของนอร์ดี้ มูกีเล่” เหตุผลสำคัญคือทิศทางของลูกบอลหลังจากโดนตัวมูกีเล่เปลี่ยนมุมจนผู้รักษาประตูอ่านทางไม่ออก ซึ่งเข้าหลักเกณฑ์ของการให้เครดิตเป็น “own goal” มากกว่าจะเป็นประตูของผู้ยิงคนแรก
แง่มุมนี้อาจฟังดูเป็นรายละเอียดเล็ก ๆ สำหรับคนดู แต่สำหรับนักเตะ โดยเฉพาะแข้งใหม่ที่ยังรอ “โมเมนต์ปลดล็อก” อย่างเวิร์ตซ์ ตัวเลขบนสกอร์ชีตย่อมมีความหมาย ทั้งในมุมความมั่นใจและประวัติส่วนตัว ทว่าเมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามหลังเกมว่า เสียดายไหมที่ไม่ได้รับเครดิตเป็นประตูแรก เขากลับตอบสั้น ๆ แต่สะท้อนความเป็นมืออาชีพว่า
“ไม่สำคัญเลยวันนี้ เพราะเราจบด้วยผลเสมอ ทั้งที่ต้องการสามคะแนน เราโชคร้าย”
คำตอบดังกล่าวอธิบายสภาพจิตใจของเวิร์ตซ์ได้ดี เขาไม่ได้หมกมุ่นกับสถิติส่วนตัวมากไปกว่าสภาพรวมของทีม ลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้ต้องเจอกับแรงกดดันรอบด้าน ทั้งฟอร์มที่แกว่ง ความไม่แน่นอนในเกมรุก และกระแสวิจารณ์ต่อ Arne Slot ที่ยังไม่สามารถสร้างทีมให้ “ลงล็อก” แบบที่แฟน ๆ เคยคุ้นในยุคเจอร์เก้น คล็อปป์
หากมองย้อนกลับไปตั้งแต่เริ่มเกม ซันเดอร์แลนด์ไม่ใช่ทีมที่มาเพื่อ “เอาตัวรอด” เท่านั้น พวกเขากล้าถือบอล กล้าขึ้นเกม และใช้ความแน่นอนในจังหวะเปลี่ยนจากรับเป็นรุกเล่นงานแนวรับลิเวอร์พูลหลายครั้ง จนในที่สุดก็มาได้ประตูนำจากลูกยิงไกลของ เชมส์ดิน ทัลบี ที่บอลแฉลบขา เวอร์จิล ฟาน ไดค์ เปลี่ยนทางเข้าประตู อลิสซอน เบ็คเกอร์ ที่ออกตัวไปแล้วไม่มีโอกาสแก้ตัวมากนัก ประตูนี้สะท้อนให้เห็นว่า แนวรับหงส์แดงไม่ได้มีปัญหาแค่ “ความผิดพลาดรายบุคคล” แต่ยังมีเรื่องของตำแหน่งยืน การบีบพื้นที่ และการปิดซ้อนหน้ากรอบที่ยังไม่กระชับเหมือนเดิม
สถานการณ์ยิ่งชวนให้แฟนบอลตั้งคำถามเมื่อ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ถูกดร็อปจากตัวจริงอีกครั้งต่อเนื่องจากเกมกับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ถึงแม้คราวนี้เขาจะถูกส่งลงมาตั้งแต่เริ่มครึ่งหลังแทนโคดี้ กั๊กโป แต่ภาพรวมของเกมรุกก็ยังดูขาด “แรงระเบิด” ในพื้นที่สุดท้าย ลิเวอร์พูลครองบอลได้เยอะ แต่จังหวะขึ้นเกมริมเส้น การวิ่งทำทาง และการเชื่อมต่อในพื้นที่สุดท้ายกลับขาดความคมชัดที่เคยทำให้คู่แข่งหวาดกลัวในยุคก่อน
เมื่อเวลาผ่านไป ความกดดันในแอนฟิลด์กลับยิ่งหนาขึ้น การผ่านบอลช้าไปครึ่งจังหวะ การตัดสินใจเลี้ยงต่อแทนจ่ายเร็ว หรือจังหวะสับไกที่ลังเล ทำให้เกมบุกของลิเวอร์พูลดู “หนืด” จนแฟนบอลบางส่วนเริ่มโห่แผ่ว ๆ ระบายความอึดอัด แต่แล้วก็เป็นเวิร์ตซ์ที่ฉายแววความเป็น “จอมสร้างสรรค์เกม” ออกมาในช่วงท้าย ช่วงเวลาที่เขาเลี้ยงแหวกแนวรับซันเดอร์แลนด์ก่อนยิงให้บอลไปชนมูกีเล่เข้าประตู นั่นคือภาพของนักเตะระดับท็อปที่สามารถสร้างจังหวะได้เองแม้ทีมจะเล่นไม่ดี
น่าเสียดายที่หลังจากตีเสมอได้ ลิเวอร์พูลไม่สามารถใช้โมเมนตัมนี้พลิกเกมเป็นสามคะแนนได้ ซันเดอร์แลนด์กลับเกือบช็อกทั้งแอนฟิลด์ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เมื่อ วิลสัน อีซีดอร์ หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับอลิสซอน บอลหลุดผ่านมือผู้รักษาประตูไปแล้ว แต่โชคยังเข้าข้างเจ้าบ้านเมื่อ เฟเดริโก้ เคียซ่า วิ่งกลับมาสไลด์เคลียร์จากเส้นประตูได้หวุดหวิด ฉากดังกล่าวกลายเป็นภาพจำของเกมนี้พอ ๆ กับลูกยิงของเวิร์ตซ์ – ภาพที่แสดงให้เห็นว่า ลิเวอร์พูลสามารถ “ตกเป็นรอง” ในบ้านตัวเองได้ชัดเจนแค่ไหน
ฝั่งคอมเมนเตเตอร์อย่าง เจมี คาร์ราเกอร์ ก็ไม่ได้ออมคำมากนัก เมื่อกล่าววิจารณ์สดทาง Sky Sports ว่า
“ในบางมุม ผมคิดว่าซันเดอร์แลนด์เองก็น่าจะผิดหวังที่ได้แค่หนึ่งแต้ม ลิเวอร์พูลน่าเป็นห่วงมากจริง ๆ วันนี้เหมือนทีมถอยหลังไปอีกก้าว”
เขาชี้ให้เห็นว่า ลิเวอร์พูล “แทบไม่ดูมีโอกาสจะยิงประตูได้เลย” ในหลายช่วงของเกม ขาดทั้งความเร็ว แรงปะทะ และพลังงานที่เคยเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เกมรุกดูช้าและอ่านง่าย นี่คือสัญญาณเตือนที่อาจสำคัญไม่แพ้ผลเสมอในตารางคะแนน
หากเปรียบเทียบกับยุคที่ลิเวอร์พูลเต็มไปด้วยตัวรุกเลือดเดือด ไล่เพรสไม่หยุด การเห็นทีมเล่นแบบขาดความไหลลื่นเช่นนี้ ย่อมสร้างคำถามใหญ่ให้กับแฟน ๆ ว่า “โครงสร้างใหม่” ที่สโมสรพยายามสร้างขึ้นกำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้องหรือไม่ การเข้ามาของผู้เล่นใหม่หลายคนรวมถึงเวิร์ตซ์ควรจะเติมคุณภาพ แต่จนถึงตอนนี้สิ่งที่เห็นคือทีมยังหาจุดสมดุลไม่ได้
กระนั้นเอง ฟอร์มของเวิร์ตซ์ในเกมนี้ก็มีด้านบวกให้จับต้องได้ นอกจากจังหวะยิงที่กลายเป็นต้นเหตุของประตูตีเสมอแล้ว เขายังเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่พยายามเล่นระหว่างไลน์ ดึงกองหลังซันเดอร์แลนด์ออกจากตำแหน่ง และสร้างช่องให้เพื่อนวิ่งสอดเข้าเขตโทษ การอ่านเกมและการเคลื่อนที่โดยไม่มีบอลของเขา คือสิ่งที่อาจกลายเป็นอาวุธสำคัญในระยะยาว หากทีมสามารถสร้างโครงสร้างรอบตัวเขาได้ลงตัวกว่านี้
เกมนี้ยังสะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงใน “ลำดับความสำคัญ” ของสโมสรด้วย การที่พรีเมียร์ลีกมี Goal Accreditation Panel คอยตรวจสอบและกำหนดเครดิตของแต่ละประตูอย่างละเอียด คือหนึ่งในภาพสะท้อนของฟุตบอลยุคใหม่ที่ตัวเลขและสถิติมีความสำคัญต่อการประเมินค่า ทั้งในมุมรางวัลส่วนบุคคล ค่าเหนื่อย และค่าตัวในตลาดนักเตะ แต่สำหรับเวิร์ตซ์ การเลือกที่จะบอกว่า “ไม่สำคัญหรอกว่าประตูเป็นชื่อใคร วันนี้เราแค่เสมอ” แสดงให้เห็นว่าเขายังยึด “ผลลัพธ์ของทีม” เป็นหลัก มากกว่าการยึดติดกับชื่อของตัวเองบนกระดานคะแนน
เมื่อมองไปข้างหน้า ลิเวอร์พูลไม่มีเวลามานั่งจมอยู่กับผลเสมอนานนัก เพราะโปรแกรมต่อไปคือการบุกเยือนเอลแลนด์ โร้ดเจอกับลีดส์ ยูไนเต็ด ทีมที่เพิ่งคืนฟอร์มด้วยชัยชนะ 3–1 เหนือเชลซีในคืนเดียวกัน ความมั่นใจของเจ้าบ้านย่อมกำลังพุ่งสูง ในขณะที่ลิเวอร์พูลต้องพยายามกู้ความเชื่อมั่นของตัวเองกลับมาให้ได้ภายในเวลาไม่กี่วัน Slot จะต้องตัดสินใจครั้งสำคัญทั้งเรื่องการจัดตัว ว่าจะให้ซาลาห์กลับมาเป็นตัวจริงหรือไม่ และจะใช้เวิร์ตซ์ในตำแหน่งใดเพื่อดึงศักยภาพสูงสุดออกมา
สำหรับแฟนหงส์แดง เกมเจอซันเดอร์แลนด์อาจถูกจดจำในฐานะคืนที่เวิร์ตซ์ “เกือบ” ได้ประตูแรก แต่ในภาพใหญ่กว่านั้น มันอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการตั้งคำถามอย่างจริงจังต่อทั้งโครงสร้างเกมรุก แท็กติกของกุนซือ และความพร้อมของทีมที่จะเดินหน้าต่อในเส้นทางลุ้นพื้นที่ยุโรปหรือแชมป์ในระยะยาว
ถ้าคุณชอบอ่านเกมแบบมองละเอียดทั้งแท็กติก ฟอร์ม และตัวเลขเหมือนวิเคราะห์จังหวะของฟลอเรียน เวิร์ตซ์ ลองเอาวิธีคิดแบบเดียวกันมาใช้กับการจัดการเงินและการลงทุนของตัวเองผ่าน ufa365 ดูบ้างก็ได้ เพราะเมื่อคุณมีเว็บที่ข้อมูลครบ อ่านง่าย และตัดสินใจได้เร็วเหมือนจังหวะยิงของเพลย์เมกเกอร์ชั้นยอด ทุกสเต็ปการวางแผนของคุณก็อาจ “เข้ากรอบ” ได้บ่อยกว่าที่คิดมากเลย
