Virgil van Dijk และ Andy Robertson ได้รับคำสั่งให้พูดคุยกับโมฮาเหม็ด ซาลาห์ โดยมีกำหนดเส้นตายที่ชัดเจนสำหรับลิเวอร์พูล ufa007
สถานการณ์ของ Mohamed Salah กับ Liverpool ตอนนี้ไม่ได้เป็นแค่ดราม่าธรรมดา แต่กลายเป็น “เคสสำคัญระดับสโมสร” ที่ทุกคนจับตา ตั้งแต่แฟนบอล บอร์ดบริหาร ไปจนถึงอดีตแข้งระดับตำนานอย่าง Steve McManaman ที่ออกมาพูดชัดเจนว่า ถึงเวลาแล้วที่คนอย่าง Virgil van Dijk และ Andy Robertson จะต้องก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในฐานะผู้นำห้องแต่งตัว พูดคุยกับ Salah แบบเปิดใจ ก่อนที่ทุกอย่างจะบานปลายไปไกลกว่านี้
Virgil van Dijk และ Andy Robertson
ต้นเรื่องเริ่มจากเกมพรีเมียร์ลีกสุดดราม่ากับ Leeds United ซึ่งจบลงด้วยผลเสมอ 3-3 แต่ไฮไลต์กลับไม่ใช่สกอร์ในสนาม หากเป็นการที่ Salah ถูกดรอปเป็นตัวสำรอง และไม่ได้ลงเล่นแม้แต่นาทีเดียว หลังจบเกม ดาวยิงวัย 33 ปีออกมาให้สัมภาษณ์แบบ “จัดเต็ม” ทั้งเรื่องความสัมพันธ์กับ Arne Slot ความรู้สึกว่าตัวเองถูกโยนเป็นแพะรับบาป รวมถึงคำว่า “ไม่มีอะไรให้คุยกันแล้ว” ที่ทำให้แฟนบอล Liverpool ทั่วโลกใจหาย
ไม่กี่วันถัดมา Slot ตัดสินใจแรงพอ ๆ กัน ด้วยการ “ไม่ใส่ชื่อ Salah ในทีมชุดบุกเยือน Inter Milan” ในศึกแชมเปียนส์ลีก เกมที่ Liverpool กลับมาคว้าชัยชนะ 1-0 ได้อย่างยอดเยี่ยมในสนาม แต่เบื้องหลังเวที กลับเต็มไปด้วยคำถามเกี่ยวกับอนาคตของซูเปอร์สตาร์เบอร์หนึ่งของสโมสร ว่าจากนี้เขายังอยู่ในแผนหรือไม่ และที่สำคัญ เขายังอยากอยู่ต่อหรือเปล่า
ประสบการณ์ ในห้องแต่งตัวMcManaman
McManaman ที่เคยผ่านประสบการณ์ในห้องแต่งตัวระดับสูง ทั้งกับ Liverpool และ Real Madrid มองภาพรวมแล้วเชื่อว่า ปัญหาระดับนี้ไม่ควรปล่อยให้เป็นเพียงการคุยกันระหว่างโค้ชกับนักเตะสองฝ่ายเท่านั้น แต่ “ผู้นำในทีม” ต้องเข้ามามีส่วนร่วม เพราะคำพูดของ Salah ไม่ใช่แค่เรื่องระหว่างเขากับ Slot แต่กระทบทั้งภาพลักษณ์องค์กร บรรยากาศในทีม และสมาธิของนักเตะที่เหลือด้วย
เขาจึงพูดผ่านรายการของ TNT Sports ว่า ถ้าเขาเป็นเพื่อนร่วมทีมและรู้จัก Salah มานาน เขาจะต้องเดินเข้าไปบอกตรง ๆ ว่า
“เฮ้ แบบนี้มันไม่ดีทั้งสำหรับนายเอง และไม่ดีสำหรับทีมในระยะยาว”
จุดที่ McManaman ย้ำคือ “เวลา” เพราะตอนนี้มีเดดไลน์สำคัญรออยู่ Salah ต้องเดินทางไปร่วมทีมชาติอียิปต์เพื่อเตรียมสู้ศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ (AFCON) ในวันจันทร์ และก่อนหน้านั้น Liverpool ยังมีเกมสำคัญกับ Brighton ในช่วงสุดสัปดาห์ เขาจึงมองว่า ทุกอย่างควรเคลียร์ให้จบ “ก่อนเตะกับ Brighton”
เหตุผลก็เพราะ หากปล่อยให้เรื่องนี้คาราคาซังไปอีก 6 สัปดาห์ ระหว่างที่ Salah ไปเล่น AFCON ข่าวลือจะยิ่งทวีคูณ ทั้งเรื่องการย้ายทีม ความแตกแยกในห้องแต่งตัว ไปจนถึงภาพลักษณ์ของสโมสรในสายตานักเตะเป้าหมายที่จะย้ายมาในอนาคต มันไม่ใช่แค่เรื่องอารมณ์ชั่ววูบ แต่กลายเป็นเรื่องยุทธศาสตร์ของทั้งสโมสรไปแล้ว
มุมของ McManaman
จากมุมของ McManaman คนที่เหมาะที่สุดจะเข้าไปคุยกับ Salah ไม่ใช่ใครที่ไหน นอกจาก Virgil van Dijk และ Andy Robertson สองกัปตัน–รองกัปตันที่อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับเขามาเกือบแปดปี ความสัมพันธ์ที่สั่งสมมาตั้งแต่ยุคของ Jurgen Klopp ทำให้เขาเชื่อว่า หากใครจะกล้าพูดตรง ๆ กับ Salah ว่า “ตอนนี้นายกำลังลากเรื่องให้ยืดเยื้อเกินไปแล้ว” คน ๆ นั้นต้องเป็นผู้นำในสนามที่ Salah เคารพจริง ๆ
“ทุกคนสนิทกันในห้องแต่งตัว” McManaman ว่าไว้ เขาไม่ได้โยนความรับผิดชอบให้แค่สองคนนี้ แต่ต้องการสื่อว่า ในทีมที่มีโครงสร้างชัดเจน คนที่รับบทเป็นผู้นำในสนาม มักต้องรับบทเป็นคนกลางในห้องแต่งตัวด้วย โดยเฉพาะเวลาเกิดความขัดแย้งระดับใหญ่ระหว่างสโมสรกับสตาร์ของทีม
ด้าน Arne Slot เอง หลังจบเกมกับ Inter ก็ถูกนักข่าวถามตรง ๆ ถึงสถานการณ์ของ Salah เขาตอบแบบชัดเจนว่า ในชีวิตทุกคนล้วนทำผิดพลาดได้ แต่คำถามสำคัญคือ “ใครควรเป็นฝ่ายเริ่มต้นยอมรับและแก้ไขก่อน”
“ผู้เล่นเองควรเป็นฝ่ายยอมรับหรือเปล่า? หรือหน้าที่เป็นของผมหรือสโมสร? นี่คือคำถามที่ทุกคนต้องคิด” Slot กล่าว พร้อมยกตัวอย่าง Ibrahima Konaté ที่เพิ่งผ่านช่วงฟอร์มตกและข้อผิดพลาดสำคัญ แต่ตอบสนองกลับมาได้ด้วยฟอร์มยอดเยี่ยมในเกมกับ Inter
Slot ยังเล่าถึงบริบทของทีมในช่วงก่อนหน้า ว่า Liverpool เพิ่งผ่านสองเกมที่เสียรวมกันถึง 7 ประตู จากการเจอ PSV และ Forest ทำให้เขาต้องเน้นแก้เกมรับอย่างจริงจัง ช่วงหลังทีมเริ่มเสียโอกาสน้อยลง เกมกับ West Ham ดูดีขึ้น เกมกับ Sunderland ก็แทบไม่เสียจังหวะจนถึงช่วงท้าย ยกเว้นลูกที่ไม่ใช่โอกาสชัดเจนนัก ก่อนมาเจอ Leeds ที่ทุกอย่างระเบิดพร้อมกัน ทั้งในสนามและนอกสนาม
จากคำพูดของ Slot จะเห็นว่า เขาพยายามรักษาสมดุลสองอย่างพร้อมกัน
- ปกป้องภาพรวมของทีม และนักเตะที่ยังอยู่ในแผน
- ไม่ออกมาปะทะกับ Salah ตรง ๆ แต่ส่งสัญญาณว่า “ฝั่งผู้เล่นก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบ”
ฝั่ง Virgil van Dijk เอง เมื่อถูกถามถึงเรื่อง “ใครควรเป็นคนขอโทษ” เขาตอบแบบสุขุมตามสไตล์กัปตัน
“ไม่ใช่หน้าที่ผมที่จะบอกว่าใครควรขอโทษ มันคือความรู้สึกของ Mo เขาแค่พูดในสิ่งที่เขารู้สึก สโมสรต้องจัดการเรื่องนี้กับเขา”
คำตอบนี้อ่านเผิน ๆ อาจดูเหมือนการปฏิเสธไม่ยุ่ง แต่ในเชิงลึกมันคือการยืนยันว่า เรื่องนี้เป็น “ระดับสโมสร” มากกว่าจะปล่อยให้จัดการกันเองในห้องแต่งตัว พร้อมกันนั้น Van Dijk ก็ยอมรับว่า มันคือสถานการณ์ที่ทุกคนได้รับผลกระทบ เพราะ Salah เป็นคนที่มีอิทธิพลต่อทีมทั้งในสนามและในห้องแต่งตัวมานาน
ภายในทีมเอง Van Dijk บอกว่า เขารู้จัก Salah มานาน ทั้งช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จและช่วงที่ล้มเหลว ทั้งสองเคยผ่านชัยชนะในลีก แชมเปียนส์ลีก และเกมใหญ่แทบทุกเวที เขายอมรับตรง ๆ ว่า ทั้งคู่ยังคุยกัน แต่บทสนทนาเหล่านั้น “ต้องอยู่หลังประตูปิด” เพราะยิ่งปล่อยให้หลุดมานอกสื่อเท่าไหร่ ก็ยิ่งเติมเชื้อไฟให้ข่าวมากขึ้นเท่านั้น
จากภาพทั้งหมดที่ต่อกัน มันชัดเจนว่า ตอนนี้ Liverpool กำลังเดินอยู่บนเส้นบาง ๆ ระหว่าง
- การปกป้องวัฒนธรรมและระเบียบวินัยของทีม
- กับการเคารพสถานะและประวัติศาสตร์ของหนึ่งในตำนานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสโมสรอย่าง Mohamed Salah
McManaman ถึงได้ย้ำคำว่า “ต้องรีบเคลียร์ให้จบก่อน AFCON”
McManaman ถึงได้ย้ำคำว่า “ต้องรีบเคลียร์ให้จบก่อน AFCON” เพราะหากลากยาวไป ในเวลา 6 สัปดาห์ที่ Salah อยู่กับทีมชาติ สื่อจะมีเวลาเหลือเฟือในการปั้นข่าวต่อเนื่อง แฟนบอลจะอยู่ในโหมดเดาอนาคต และทุกนัดที่ Liverpool ลงเล่นจะถูกโยงกับคำถามเดียวว่า “ถ้า Salah อยู่ในสนาม เรื่องจะต่างออกไปไหม?”
ในโลกฟุตบอลระดับท็อป เรื่องแบบนี้ไม่ได้กระทบแค่ผลงานในสนาม แต่มันเริ่มกระทบการตัดสินใจในห้องประชุมของบอร์ด การวางแผนตลาดซื้อขายนักเตะ และทิศทางระยะกลางของทีมด้วย เพราะหากสโมสรต้องเสีย Salah ไปจริง ๆ ไม่ว่าจะตลาดมกราคมหรือซัมเมอร์ การหาตัวแทนทั้งในเชิงคุณภาพฝีเท้าและภาพลักษณ์ทางการตลาดไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าทางออกจะเป็นอย่างไร การกลับมาปรับความเข้าใจและเดินหน้าต่อร่วมกัน หรือการเตรียมแยกทางแบบระมัดระวัง เดดไลน์ที่ McManaman พูดถึงก็คือ “ช่วงเวลาก่อน Salah ขึ้นเครื่องไป AFCON” นั่นเอง เพราะหลังจากนั้น เรื่องทุกอย่างจะเริ่มอยู่นอกเหนือการควบคุมของสโมสรและแฟนบอลมากขึ้นเรื่อย ๆ
ถ้าอยากอินกับดราม่า Salah Liverpool ไปพร้อมกับลุ้นผลจริงแบบสด ๆ ทั้งพรีเมียร์ลีกและแชมเปียนส์ลีก ลองสัมผัสบรรยากาศเชียร์บอลที่สนุกกว่าเดิมผ่าน ufa007 รวมโปรแกรมบอลใหญ่ ราคาต่อรองแบบอัปเดตตลอดแมตช์ ให้คุณวิเคราะห์เกม เชียร์ทีมรัก และลุ้นทุกจังหวะได้มันส์ยิ่งขึ้นทุกคืนบอลใหญ่
